มองหาร่องยางที่มี “แท่งนูนเล็กๆ” อยู่ในร่องลึกของยาง เรียกว่า TWI (Tread Wear Indicator)
หากดอกยางสึกจนระดับเดียวกับแท่งนี้ = ควรเปลี่ยนยางทันที
ลองใช้นิ้วจิกเบาๆ หากรู้สึกว่า “แข็งมาก” หรือ “ไม่คืนรูป” = ยางเสื่อมแล้ว
ยางที่ดีควรจะยังนิ่มพอประมาณ ยืดหยุ่นได้
ยางบวม: มักเกิดจากโครงสร้างภายในเสียหาย อาจระเบิดได้เมื่อวิ่งเร็ว
รอยแตกที่แก้มยาง: แม้เล็กน้อยก็ไม่ควรมองข้าม
รอยบาดลึก: โดยเฉพาะถ้ามองเห็นชั้นผ้าใบข้างใน
ศูนย์ล้อไม่ตรง
โช้คอัพเสื่อม
น้ำหนักไม่สมดุล
บนแก้มยางจะมีตัวเลข 4 หลัก เช่น “2319”
23 = สัปดาห์ที่ผลิต (สัปดาห์ที่ 23)
19 = ปีที่ผลิต (ปี 2019)
รหัส | ความหมาย |
---|---|
205 | ความกว้างของหน้ายาง (มิลลิเมตร) |
55 | ความสูงของแก้มยาง คิดเป็น % ของความกว้าง (55% ของ 205) |
R | โครงสร้างยางแบบเรเดียล (Radial) |
16 | ขนาดวงล้อหรือกระทะล้อ (นิ้ว) |
91 | ดัชนีบรรทุก (Load Index) = รองรับน้ำหนักได้ 615 กก./เส้น |
V | ดัชนีความเร็ว (Speed Rating) เช่น V = ทนความเร็วได้สูงสุด 240 กม./ชม. |
Treadwear (ความทนทาน)
ยิ่งตัวเลขสูง ยางยิ่งทน แต่ความเกาะถนนอาจลดลง
เช่น 600 ทนกว่า 300
Traction (การยึดเกาะถนนเปียก)
AA > A > B > C
Temperature (ทนความร้อน)
A = ดีที่สุด
B, C = พอใช้
Radial (เรเดียล): นิยมที่สุด โครงสร้างแข็งแรง ทนความร้อนดี เหมาะสำหรับความเร็วสูง
Bias (ไบแอส): เนื้อยางนุ่มกว่า ทนการกระแทกดี แต่วิ่งเร็วไม่ดีเท่าเรเดียล
ประเภท | ลักษณะ | ข้อดี | เหมาะกับ |
---|---|---|---|
Symmetric | ดอกยางเหมือนกันทั้งเส้น | เสียงเงียบ ราคาถูก | รถทั่วไป |
Directional | ลายดอกวิ่งทิศเดียว | รีดน้ำดี ป้องกันลื่นไถล | ขับเร็ว/ฝนตก |
Asymmetric | ลายดอกไม่สมมาตร | เข้าโค้งดี ลดเสียง | รถสปอร์ต/หรู |
ยางทั่วไป (Standard): เหมาะใช้ประจำวัน
ยางประหยัดน้ำมัน (Eco): แรงต้านต่ำ ประหยัดน้ำมัน
ยางสปอร์ต (Performance): ยึดเกาะดี เข้าโค้งมั่นใจ
ยางลุย (All Terrain / Mud Terrain): ใช้ทางฝุ่น/ออฟโรด
ยาง Run Flat: วิ่งได้แม้ยางรั่ว ปลอดภัยแต่ราคาสูง
✅ ตรวจลมยางทุกเดือน หรือก่อนออกเดินทางไกล
✅ สลับยางหน้าหลังทุก 10,000 กม.
✅ ตั้งศูนย์ ถ่วงล้อเป็นประจำ
✅ ขับด้วยความเร็วเหมาะสม หลีกเลี่ยงขอบฟุตบาท หลุมบ่อ
✅ ไม่จอดรถตากแดดนานๆ เพราะทำให้ยางแข็ง
✅ ทำความสะอาดหน้ายาง ล้างฝุ่น เศษหินที่ติดร่องดอก
เบรกไม่อยู่
เหินน้ำ
ยางระเบิดขณะขับ
รถเสียการควบคุม
สิ่งที่ควรเช็ก | วิธีสังเกต |
---|---|
ดอกยาง | มีสะพานยางหรือไม่ ใช้เหรียญบาทช่วย |
เนื้อยาง | จิ้มนิ้วแล้วนิ่มหรือแข็งมาก |
อายุยาง | ดูเลข 4 หลักบนแก้ม เช่น 2219 = สัปดาห์ที่ 22 ปี 2019 |
สภาพภายนอก | มีบวม รอยแตก หรือไม่ |
การสึก | สึกไม่เท่ากันแสดงว่ามีปัญหาช่วงล่าง |
รหัสยาง | รู้ไว้เลือกยางให้เหมาะกับรถ |
ประเภทยาง | เลือกตามการขับ เช่น เมือง, ทางไกล, ฝนตก |
UTQG | ดูความทนทาน, การเกาะถนน, ทนความร้อน |
อย่าดูแค่ “ราคา” ให้ดูรวมถึงประสิทธิภาพการเกาะถนน และการใช้งานที่เหมาะกับตนเอง
ใช้ยางยี่ห้อเดียวกันทั้ง 4 เส้นเพื่อสมดุล
หากจำเป็นต้องเปลี่ยนแค่ 2 เส้น ควรใส่เส้นใหม่ไว้ด้านหลัง