ในตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แบตเตอรี่หลักๆ ที่ใช้ ได้แก่:

• แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion): เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย มีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 3-5 ปีหรือมากกว่านั้น ข้อดีคือมีน้ำหนักเบาและสามารถชาร์จได้เร็ว
• แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (LiFePO4): เป็นแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยสูง มีอายุการใช้งานยาวนานและทนทานต่อการใช้งานหนัก แต่มีน้ำหนักมากกว่าลิเธียมไอออนเล็กน้อย
• แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด (Lead-acid): ถึงแม้จะมีราคาถูกและใช้งานง่าย แต่แบตเตอรี่ชนิดนี้มีน้ำหนักมากและอายุการใช้งานสั้นกว่า ทำให้ไม่ค่อยนิยมในรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในปัจจุบัน

ในปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ได้แก่:

• Zero Motorcycles: ยี่ห้อจากสหรัฐฯ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
• Energica: ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากอิตาลีที่เน้นการผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสูงสุดในด้านประสิทธิภาพ
• Super Soco: แบรนด์จากจีนที่มุ่งเน้นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในกลุ่มผู้ขับขี่ในเมือง
• NIU: อีกหนึ่งแบรนด์ที่มาจากจีน ซึ่งผลิตทั้งสกู๊ตเตอร์และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
• Vespa: แม้จะเป็นที่รู้จักในด้านรถจักรยานยนต์ทั่วไป แต่ตอนนี้ Vespa ก็มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าภายใต้ชื่อ "Vespa Elettrica"

ข้อดี:

• ประหยัดค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องใช้น้ำมัน จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขับขี่
• เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ไม่มีการปล่อยมลพิษจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง
• ประสิทธิภาพการขับขี่: สามารถเร่งความเร็วได้ทันทีจากการหมุนบิดคันเร่งและไม่มีเสียงรบกวน
• บำรุงรักษาง่าย: รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวไม่มาก ทำให้การบำรุงรักษาต่ำ

ข้อเสีย:

• ระยะทางจำกัด: หากเปรียบเทียบกับมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมัน ระยะทางในการขับขี่จะจำกัดตามความจุของแบตเตอรี่
• เวลาในการชาร์จ: ถึงแม้จะมีการพัฒนาให้ชาร์จเร็วขึ้น แต่การชาร์จยังคงใช้เวลา
• ราคาเริ่มต้นสูง: มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามักจะมีราคาสูงกว่ามอเตอร์ไซค์ทั่วไปในตอนแรก

อนาคตของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า: การพัฒนาในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่และมอเตอร์จะช่วยให้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต ทั้งในเรื่องระยะทางการขับขี่ที่ยาวนานขึ้นและเวลาการชาร์จที่เร็วขึ้น

โครงสร้างพื้นฐานของการชาร์จ: การสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้าให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้มากขึ้นในอนาคต

การขับขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในแง่ของการประหยัดพลังงานและการลดมลพิษ ซึ่งแนวโน้มในอนาคตคาดว่าจะมีการพัฒนาระบบต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น ทั้งในแง่ของราคาและความสะดวกในการชาร์จ.

ราคาของแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะแตกต่างกันไปตามประเภทของแบตเตอรี่และยี่ห้อ โดยเฉลี่ยแล้วราคาของแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะอยู่ในช่วงประมาณนี้:

แบตเตอรี่ประเภทนี้มักใช้ในมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าระดับกลางถึงสูง และมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากมีความจุสูงและอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยราคาของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามักจะอยู่ที่ประมาณ:

• ราคา: 10,000 – 40,000 บาท (หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความจุและยี่ห้อ)
• ความจุ: โดยทั่วไปแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ในมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะมีความจุระหว่าง 1,000 – 4,000 วัตต์ชั่วโมง (Wh)

แบตเตอรี่ชนิดนี้มีความปลอดภัยสูงและทนทาน แต่ราคาจะสูงกว่าลิเธียมไอออนเล็กน้อย

• ราคา: ประมาณ 20,000 – 50,000 บาท
• ความจุ: ความจุจะคล้ายกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน

แบตเตอรี่ประเภทนี้ราคาถูกที่สุด แต่มีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าและน้ำหนักมากกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ

• ราคา: 5,000 – 15,000 บาท
• ความจุ: ความจุมักจะอยู่ในช่วง 500 – 1,000 วัตต์ชั่วโมง (Wh)

• ระยะเวลาในการใช้งาน: แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและลิเธียมเหล็กฟอสเฟตมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าตะกั่ว-กรด
• ราคาอะไหล่: ค่าซ่อมและราคาอะไหล่ของแบตเตอรี่ลิเธียมจะสูงกว่าตะกั่ว-กรด แต่ก็คุ้มค่ากับการใช้งานระยะยาว

โดยทั่วไป หากคุณต้องการแบตเตอรี่ที่ทนทานและมีประสิทธิภาพสูง แนะนำให้เลือกแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนหรือลิเธียมเหล็กฟอสเฟต แม้ว่าราคาจะสูง แต่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและมีการใช้งานที่ยาวนานขึ้น.