แบต Auxiliary คืออะไร?
แบต Auxiliary หรือที่เรียกกันว่า แบตเตอรี่เสริม เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้สำหรับจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถยนต์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยจะทำงานร่วมกับแบตเตอรี่หลักเพื่อรองรับการใช้งานที่ต้องการพลังงานเพิ่มเติม เช่น ระบบเครื่องเสียง, ระบบไฟฟ้าภายในรถ, หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่ต้องการพลังงานมาก
แบต Auxiliary ใช้กับอะไร?
แบต Auxiliary มักใช้ในรถยนต์ที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือระบบที่ต้องการพลังงานเพิ่มเติมจากแบตเตอรี่หลัก เช่น:
- เครื่องเสียงรถยนต์: เช่น เครื่องเสียงระบบแอมป์, ซับวูฟเฟอร์ หรือระบบเสียงที่กินพลังงานสูง
- ระบบไฟฟ้าเสริม: เช่น ไฟสปอร์ตไลท์, ระบบแอร์ที่ใช้ไฟฟ้าภายในรถ, หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่ใช้ไฟจากแบตเตอรี่
- อุปกรณ์เสริมในรถ: เช่น สเตอริโอหรืออุปกรณ์เชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตในรถ
ประโยชน์ของแบต Auxiliary
- เพิ่มความสามารถในการจ่ายไฟ: เมื่อรถติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติมหรือเครื่องเสียงที่ใช้ไฟมาก แบต Auxiliary จะช่วยเสริมพลังงานและทำให้แบตเตอรี่หลักไม่หมดเร็ว
- ป้องกันการทำลายแบตเตอรี่หลัก: การใช้แบตเสริมช่วยแบ่งเบาภาระจากแบตเตอรี่หลัก ลดการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่หลัก
- รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าได้มากขึ้น: ช่วยให้คุณสามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสริมในรถโดยไม่กังวลว่าแบตเตอรี่หลักจะหมดเร็วเกินไป
หน้าที่ของแบต Auxiliary
หน้าที่หลักของแบต Auxiliary คือการจ่ายพลังงานให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดตั้งเสริมในรถยนต์โดยไม่ให้กระทบกับแบตเตอรี่หลัก แบตเสริมจะทำงานเมื่อมีการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหนัก ๆ และทำให้แบตหลักไม่ถูกดึงพลังงานจนหมดเร็วเกินไป โดยสามารถช่วยให้อุปกรณ์เหล่านั้นทำงานได้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
ข้อเสียของแบต Auxiliary
- ราคาแพง: แบต Auxiliary มีราคาที่สูงกว่าการใช้แบตเตอรี่ปกติ เนื่องจากเป็นแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถจ่ายไฟได้มากขึ้น
- พื้นที่ติดตั้ง: การติดตั้งแบตเสริมอาจต้องการพื้นที่มากขึ้นในห้องเครื่องยนต์ของรถ ซึ่งอาจทำให้การติดตั้งในบางรุ่นรถเป็นเรื่องยาก
- การบำรุงรักษา: หากไม่ได้บำรุงรักษาหรือใช้งานอย่างเหมาะสม แบต Auxiliary ก็อาจเสื่อมสภาพเร็วและทำให้ประสิทธิภาพลดลง
ราคาแบต Auxiliary
ราคาของแบต Auxiliary จะแตกต่างกันตามประเภทและขนาดของแบตเตอรี่ โดยทั่วไปแล้วราคาอาจเริ่มต้นที่ประมาณ 2,000 บาทถึง 10,000 บาท หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับแบรนด์, ขนาด, และคุณสมบัติพิเศษของแบตเตอรี่ การเลือกซื้อแบตเสริมควรพิจารณาจากความเหมาะสมกับการใช้งานและอุปกรณ์ที่คุณติดตั้งในรถ
ติดตั้งในรถยนต์ประเภทไหนบ้าง?
แบต Auxiliary มักจะติดตั้งในรถยนต์ที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือระบบที่ต้องการพลังงานมากเกินกว่าที่แบตเตอรี่หลักจะสามารถจ่ายได้ เช่น:
- รถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องเสียงแรง: เช่น ระบบเสียงที่ใช้แอมป์หรือซับวูฟเฟอร์จำนวนมาก
- รถยนต์ที่ใช้ในกิจกรรมกลางแจ้ง: เช่น รถกระบะที่ใช้ในการตั้งแคมป์, รถที่ใช้สำหรับกิจกรรมการเดินทางไกลหรือเดินทางในพื้นที่ที่ไม่มีแหล่งไฟฟ้า
- รถยนต์ที่ติดตั้งระบบไฟฟ้าหลายตัว: เช่น รถที่ติดตั้งระบบไฟสปอร์ตไลท์หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่ต้องการพลังงานจากแบตเตอรี่
การดูแลรักษาแบต Auxiliary
การดูแลรักษาแบต Auxiliary มีความสำคัญเพื่อให้แบตเตอรี่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน:
- ตรวจสอบระดับน้ำกลั่น: หากเป็นแบตเตอรี่ชนิดที่เติมน้ำกลั่นได้ ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่และเติมเมื่อจำเป็น
- ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่: ขั้วแบตเตอรี่ที่สกปรกหรือมีสนิมอาจทำให้การจ่ายไฟไม่เต็มประสิทธิภาพ ควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบการชาร์จ: การตรวจสอบระบบชาร์จไฟของรถเพื่อให้แบต Auxiliary ชาร์จไฟได้อย่างเต็มที่และไม่เสื่อมสภาพเร็ว
ถ้าแบต Auxiliary เสื่อม จะเป็นยังไง?
หากแบต Auxiliary เสื่อมสภาพ:
- เครื่องเสียงหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอาจทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ: ระบบเครื่องเสียงหรืออุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานมากอาจทำงานได้ไม่เต็มที่หรือดับไป
- แบตหลักอาจเสื่อมเร็วขึ้น: แบตหลักจะต้องทำงานหนักขึ้นเมื่อแบตเสริมเสื่อม จนอาจทำให้แบตหลักหมดเร็ว
- ไฟตกหรือไฟในรถดับ: หากแบต Auxiliary เสื่อม สัญญาณไฟฟ้าต่าง ๆ ในรถ เช่น ไฟหน้า, ไฟในห้องโดยสาร อาจไม่ทำงานตามปกติ
การดูแลและเลือกใช้แบต Auxiliary ที่มีคุณภาพ จะช่วยให้การใช้งานรถยนต์ของคุณสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องเสียงที่ต้องการพลังงานสูงจากแบตเตอรี่

แบตเตอรี่ Auxiliary ยี่ห้อไหนบ้างที่น่าใช้?
ในท้องตลาดมีแบตเตอรี่ Auxiliary หลายยี่ห้อที่มีคุณภาพและได้รับความนิยมสำหรับการติดตั้งในรถยนต์ที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องเสียงที่ต้องการพลังงานเพิ่มเติม ยี่ห้อที่มักพบได้ในตลาดมีดังนี้:
-
Optima
- ลักษณะ: แบตเตอรี่แบบ AGM (Absorbent Glass Mat) มีความทนทานสูงและเหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องเสียงหรืออุปกรณ์เสริมที่หนัก
- จุดเด่น: ทนทานต่อการใช้งานหนัก มีอายุการใช้งานยาวนานและรองรับการใช้งานในสภาพอากาศที่ร้อนหรือเย็นได้ดี
- รุ่นที่นิยม: Optima YellowTop (รุ่นสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าเสริม)
-
VARTA
- ลักษณะ: แบตเตอรี่ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ มักใช้ในรถยนต์ทั่วไป รวมถึงรถยนต์ที่มีระบบไฟฟ้าเสริม
- จุดเด่น: แบตเตอรี่ VARTA มีความทนทานและมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในสภาวะการใช้งานที่ต้องการพลังงานต่อเนื่อง
- รุ่นที่นิยม: VARTA Blue Dynamic
-
Exide
- ลักษณะ: Exide เป็นแบตเตอรี่ที่ได้รับความนิยมจากทั้งผู้ขับขี่ทั่วไปและผู้ที่ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเสริมในรถ
- จุดเด่น: มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้แบตเตอรี่ทนทานและมีการจ่ายไฟที่เสถียร แม้ในระหว่างที่มีการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหนัก
- รุ่นที่นิยม: Exide Start-Stop AGM, Exide AGM Deep Cycle
-
MK Battery
- ลักษณะ: แบตเตอรี่ที่มักใช้ในงานหนักและรถยนต์ที่มีอุปกรณ์เสริมมากมาย
- จุดเด่น: ทนทานต่อการใช้งานหนัก ใช้งานได้ยาวนาน เหมาะสำหรับรถที่มีระบบไฟฟ้าหรือเครื่องเสียงขนาดใหญ่
- รุ่นที่นิยม: MK Deep Cycle AGM
-
Duracell
- ลักษณะ: Duracell แบตเตอรี่ที่มีความน่าเชื่อถือสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในรถยนต์ที่ต้องการแบตเตอรี่เสริมสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายตัว
- จุดเด่น: มีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
- รุ่นที่นิยม: Duracell Ultra AGM
-
Kinetik
- ลักษณะ: แบตเตอรี่สำหรับเครื่องเสียงรถยนต์และอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้เครื่องเสียงในรถยนต์
- จุดเด่น: ผลิตมาเพื่อรองรับการใช้งานในระบบเสียงที่ใช้พลังงานสูง มีการออกแบบให้ทนทานและปลอดภัย
- รุ่นที่นิยม: Kinetik HC600, Kinetik HC2400
-
Fullriver
- ลักษณะ: แบตเตอรี่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานหนักในอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถยนต์ รวมถึงระบบเครื่องเสียง
- จุดเด่น: เหมาะสำหรับการใช้งานในรถยนต์ที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานมาก
- รุ่นที่นิยม: Fullriver DC Series